สบู่ เป็นสินค้าอุปโภคที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าสิ้นเปลือง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไม่มีใครใช้สบู่อาบน้ำ ตั้งแต่เด็กเล็ก จนถึงผู้สูงวัย ล้วนแล้วแต่ต้องชำระล้างร่างกายให้สะอาดทิ้งสิ้น
จากภาพจะเห็นได้ว่า ส่วนแบ่งทางการตลาดของสบู่นั้น มีมากถึง 10,000 ล้านบาทเลยทีเดียว การลงทุนทำธุรกิจ ในกลุ่มสินค้านี้ ค่อนข้างเติบโตได้ง่าย และมีความมั่นคงในระยะยาว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการทำการตลาดของแต่ละแบรนด์สินค้าด้วย
หากเสียแต่ว่า เจ้าของแบรนด์สินค้านั้นๆ ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าที่บริโภคสบู่ในกลุ่มใด เรามีสัดส่วนของแต่ละกลุ่มให้พิจารณาดังนี้
จากภาพจะเห็นได้ว่า กลุ่มสบู่สมุนไพรมีการเติบโตขึ้น ในขณะสินค้าสบู่กลุ่มอื่นๆ มีการเติบโตที่ลดลง
เราจะมาวิเคราะห์ สบู่ 2 กลุ่มหลักๆ ดังนี้
– สบู่เพื่อความสวยงาม มูลค่าตลาด 4,000 ล้านบาท
เช่นสบู่กลูต้า, สบู่เน้นผิวขาว, สบู่สิว เป็นต้น เป็นอีกกลุ่มที่กระแสค่อนข้างแรง และตลาดเติบโตไว ถึงแม้ว่าในปีนี้ มีอัตราการเติบโตที่ลดลง แต่ยังคงเป็นกลุ่มตลาดที่ใหญ่มากอยู่ หากเจ้าของแบรนด์สามารถดึงส่วนครองตลาดนี้มาได้เพียง 0.1% มูลค่าถึง 4,000,000 บาท (สี่ล้านบาท) เลยทีเดียว
การทำการตลาดจะเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับ และเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น เจ้าของแบรนด์ต้องศึกษาการตลาด โดยใช้ทุกๆ ช่องทางให้คุ้มค่า ซึ่งปัจจุบันมีช่องทางหลากหลายให้เลือกทำการโฆษณา ทั้งฟรีและเสียเงิน เริ่มแรกอาจต้องใช้ทุนในการโปรโมทพอสมควร เพิ่มให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย
– สบู่สมุนไพร มูลค่าตลาด 1,600 ล้านบาท
เป็นกลุ่มตลาดที่น่าจับตามอง เนื่องจากปัจุบันประชากรโลกให้ความสำคัญกับสินค้าที่ทำมาจากธรรมชาติ โดยเฉพาะกลุ่มสมุนไพร ซึ่งประเทศไทยเองเป็นประเทศที่มีสมุนไพรที่โดดเด่นหลากหลายชนิด ทำให้สินค้าด้านสมุนไพรไทยนั้น ได้รับการยอมรับ และนำมาเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้มากขึ้น ผู้บริโภคสบู่จากกลุ่มต่างๆ หันมานิยมใช้มากขึ้น
สุดท้ายนี้ เจ้าของแบรนด์ควรเลือกกลุ่มของลูกค้าก่อนว่า เราควรวางสินค้าไว้ในตลาดกลุ่มไหน มีเป้าหมายเพียงใด วางแผนการตลาด จัดหาแหล่งเงินทุน เพิื่อเตรียมพร้อมให้กับธุรกิจ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ขึ้นไป
ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 28 แขวงดอกไม้
เขตประเวศ กทม.10250